top of page
Search

Juvederm คิดได้ยังไง ฟิลเลอร์+ยาชา = ไม่เจ็บ!

Updated: 2 days ago

สารบัญ Juvederm (จูวีเดิม)


juvederm-1

เรื่องจริงของฟิลเลอร์+ยาชา ทำไม่ง่ายนะจ๊ะ

รู้ไหมว่า ไอเดียเรื่องใส่ยาชาในฟิลเลอร์มันไม่ได้เกิดขึ้นแบบบังเอิญนะ

มันมาจากเรื่องจริงที่น่าขำมาก และที่สำคัญคือ การผสมยาชาเข้าไปไม่ง่ายเลย!


ตอนที่ Juvederm เริ่มเข้าตลาดอเมริกาในปี 2006 ทีมงานพบว่าลูกค้าอเมริกันกลัวเข็มกันสุดๆ

มีคนยกเลิกนัดกันเพียบเลย เหตุผลเพราะ "กลัวเจ็บมาก!"


จนกระทั่งปี 2010 ทีมงานจึงคิดว่า "งั้นเราใส่ยาชาลงไปเลยดีกว่า จะได้ไม่เจ็บ ไม่มีใครกลัว"

แต่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่!


ความยากที่คนทั่วไปไม่รู้

การผสมยาชา (lidocaine) เข้าไปในฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่เทลงไปแล้วคนให้เข้ากัน มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ


ปฏิกิริยาเคมีปะทะกันเต็มๆ - ยาชาเป็นสารด่าง แต่ HA เป็นสารกรด เหมือนน้ำส้มกับน้ำปูนใส ถ้าผสมผิดจะเกิดปฏิกิริยาทำลายล้างกัน กลายเป็นเยลลี่เละๆ


เรื่อง pH ที่ละเอียดอ่อน - ต้องปรับ pH ให้พอดี ถ้าเคลื่อนไปนิดเดียว ยาชาก็จะไม่ออกฤทธิ์ หรือฟิลเลอร์เสียหาย


ปัญหาการแยกตัว - ยาชากับ HA ชอบแยกกันเป็นชั้นๆ เหมือนน้ำมันกับน้ำ ทำให้การฉีดไม่เท่ากัน


ฝันร้ายของนักวิจัย - ฟิลเลอร์ธรรมดาอยู่ได้ 2-3 ปี แต่พอใส่ยาชาเข้าไป บางสูตรเสียได้ใน 6 เดือน!


ทีมงาน Juvederm ต้องใช้เวลาวิจัยหลายปี ทดลองสูตรนับพันครั้ง ก่อนจะได้สูตรที่ ไม่แยกตัว

ไม่เสียหาย และออกฤทธิ์ได้จริง จนในที่สุด FDA อเมริกาก็อนุมัติสูตร Juvederm XC (มียาชา 0.3%)

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2010


พอมาถึงเอเชีย โดยเฉพาะที่ไทย หน้ามือเป็นหลังมือจ้า

คนไทยเราไม่ค่อยกลัวเข็มเท่าไหร่ พี่ไทยเราถือคติต้องสวยชาตินี้


แต่รู้ไหม พอใส่ยาชาเข้าไปแล้ว กลับทำให้ประสบการณ์การฉีดดีขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะไทยหรือต่างชาติ

ทุกคนชอบกันหมด การศึกษาพบว่า 93% ของผู้รับการฉีดฟิลเลอร์ รายงานว่าเจ็บน้อยลงมาก

เลยกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการฟิลเลอร์ไป


Juvederm จากอเมริกาสู่หัวใจคนทั่วโลก

เรื่องของ Juvederm เริ่มขึ้นเมื่อได้รับการอนุมัติจาก FDA อเมริกา ในวันที่ 2 มิถุนายน 2006 ตอนนั้น Restylane เป็นเจ้าใหญ่เบอร์หนึ่ง (ได้รับอนุมัติก่อนเมื่อปี 2003)


แต่ Juvederm ไม่ได้มาเล่นๆ แบรนด์นี้เป็นของ Allergan Aesthetics ซึ่งตอนนี้อยู่ภายใต้ AbbVie (บริษัทยายักษ์ใหญ่ที่ซื้อกิจการ Allergan ด้วยมูลค่า 63 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020!)


บริษัท Allergan เองก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1948 มีประสบการณ์ด้านเภสัชและความงามมายาวนานกว่า 70 ปี


จุดเปลี่ยนสำคัญ เทคโนโลยี Vycross ในปี 2013

ปี 2013 เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ เพราะ Juvederm เปิดตัว เทคโนโลยี Vycross ที่ไม่เพียงปฏิวัติโลกฟิลเลอร์ แต่ยังแก้ปัญหาการผสมยาชาได้อย่างสมบูรณ์แบบ!


ก่อนหน้านี้ (เทคโนโลยี Hylacross)

  • โครงสร้าง HA โมเลกุลใหญ่ 100% ไม่เข้ากันกับยาชา

  • เกิดการแยกตัว และความไม่เสถียร

  • ยาชาหลุดออกมาไม่เท่ากันตอนฉีด

  • ใช้ HA ถึง 24 mg/mL ทำให้บวมมาก


แต่ Vycross เปลี่ยนทุกอย่าง

  • ใช้ HA โมเลกุลเล็ก 90% + โมเลกุลใหญ่ 10% ผสมกัน ทำให้ยาชาจับได้ดีกว่า

  • โครงสร้างใหม่ช่วยให้ยาชากระจายตัวเท่าๆ กัน

  • เสถียรภาพสูง ไม่แยกตัวแม้เก็บนาน

  • ใช้ HA น้อยลง (15-25 mg/mL) แต่ได้ผลดีกว่า


วิธีนี้ทำให้ได้เนื้อเจลเฉพาะของ Juvederm

  • เรียบเนียนกว่าเดิม

  • คงทนนานขึ้น (15-24 เดือน แทนที่จะเป็น 6-12 เดือน)

  • ให้ผลลัพธ์ธรรมชาติกว่า

  • ไม่เจ็บจริงๆ เพราะยาชาทำงานได้เต็มที่!


ความสำเร็จระดับโลก

ในเดือนกันยายน 2022 Allergan Aesthetics ประกาศว่าได้ผลิต Juvederm ครบ 100 ล้านไซริงจ์แล้ว! (นับตั้งแต่เปิดตัวปี 2000) ตัวเลขนี้พิสูจน์ว่าแพทย์และคนไข้ทั่วโลกไว้ใจ Juvederm ขนาดไหน


ที่เจ๋งกว่านั้นคือ Juvederm ไม่ได้ทำแค่ฟิลเลอร์แบบเดียว แต่พัฒนาเฉพาะทาง เช่น

  • Juvederm Voluma สำหรับแก้ม ปี 2013

  • Juvederm Volbella สำหรับปาก ปี 2016

  • Juvederm Vollure สำหรับร่องแก้ม ปี 2017

  • Juvederm Volux สำหรับขากรรไกร ปี 2022

ทำให้แพทย์เลือกใช้ได้ตรงจุดมากขึ้น


ree

คนไทยมอง Juvederm ยังไง?

คนไทยมอง Juvederm เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์อเมริกันระดับไฮเอนด์ เชื่อมโยงกับคุณภาพ ความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ โดย Juvederm ได้รับการอนุมัติจาก อย. ไทย ทำให้ทั้งแพทย์และผู้บริโภคมั่นใจ


สิ่งที่คนไทยสนใจเรื่อง Juvederm

ถ้าไปดูใน Pantip หรือกลุ่มรีวิวความงาม จะเจอคำถามพวกนี้บ่อยๆ

  • "Juvederm อยู่ได้นานแค่ไหน?"

  • "Juvederm กับ Restylane ต่างกันยังไง?"

  • "ราคา Juvederm เท่าไหร่?"

แสดงว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความคงทน และความคุ้มค่า เป็นหลัก


มุมมองของแพทย์ไทย

หมอไทยชอบ Juvederm เพราะ

  • มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น ปรับใช้ได้หลายจุด

  • เทคโนโลยี Vycross ให้เนื้อเจลเรียบเนียน

  • ผลลัพธ์คาดเดาได้ ไม่เซอร์ไพรส์

  • ได้รับการรับรองจาก อย. ไทย


จุดเด่นของ Juvederm

  1. ไม่เจ็บจริงๆ  มียาชา (lidocaine) 0.3% ผสมอยู่แล้ว

  2. ดูธรรมชาติ  เนื้อเจลเรียบทำให้ไม่เป็นก้อน ไม่ดูปลอม

  3. คงทนดี อยู่ได้ 12-24 เดือน (ขึ้นกับรุ่นและจุดที่ฉีด)

  4. ปลอดภัยสูง มีการศึกษาทางคลินิกเพียบ ผ่านการรับรองจากหลายประเทศ

  5. เลือกได้หลากหลาย มีหลายรุ่นสำหรับจุดต่างๆ


ตำแหน่งในตลาด

Juvederm อยู่ในกลุ่ม พรีเมียม ราคาแพงกว่า Restylane นิดหน่อย และแพงกว่าแบรนด์เกาหลีอย่าง Neuramis เยอะ แต่คนที่เลือก Juvederm มักไม่ค่อยใส่ใจเรื่องราคา เน้นคุณภาพมากกว่า


สนใจฟิลเลอร์คุณภาพ มาตรฐาน อย. ของไทย ติดต่อตัวแทนจำหน่าย LINE @aestheticfriends


Juvederm รุ่นไหนเหมาะกับเรา?


Juvederm VOLUMA XC - แก้ม

ยกกระชับรูปแก้ม ลดความหย่อนคล้อย ใบหน้าดูอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์ขึ้นทันที


Juvederm VOLUMA XC - คาง

ปรับรูปทรงและความคมชัดของคาง ทำให้โครงหน้าสมส่วน คางชัดขึ้น


JuvedermVOLUMA XC - ขมับ

เติมความบุ๋มของขมับ เรียบเนียนจากโหนกแก้มถึงหน้าผาก ใบหน้าดูเต็มและสมส่วนขึ้น


Juvederm VOLLURE XC / JUVEDERM ULTRA PLUS XC - ร่องแก้ม

เติมร่องลึกบริเวณริ้วรอยยิ้ม ทำให้ใบหน้าเรียบเนียน ดูสดใส


Juvederm VOLBELLA XC / JUVEDERM ULTRA XC - ริมฝีปาก

สองสูตรสำหรับปาก ตามสไตล์ที่ต้องการ ทั้งแบบนุ่มธรรมชาติและชัดเจนมีมิติ


Juvederm VOLBELLA XC - ใต้ตา

เติมร่องใต้ตาที่บุ๋ม ลดเงาใต้ตา ทำให้ดูสดชื่นไม่อ่อนล้า


Juvederm VOLUX XC - กราม

ฟิลเลอร์ HA รุ่นแรกที่ FDA อนุมัติสำหรับกราม ช่วยเพิ่มความคมชัดและกระชับให้กราม


ree

ฟิลเลอร์ Juvederm บางรุ่นที่กล่าวมาอาจไม่มีจำหน่ายหรือใช้ในประเทศไทย

แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณค่ะ


เช็กลิสต์ก่อนเลือก Juvederm


ไม่ชอบลุคเกินจริง - อยากสวยแบบธรรมชาติ

กลัวเจ็บ - มียาชาผสม เจ็บน้อยกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป

ขี้เกียจมาฉีดบ่อย - คงทนดี ไม่ต้องมาทุก 6 เดือน

ชอบแบรนด์ดัง - มั่นใจในคุณภาพ ไม่อยากเสี่ยง

มีงบค่อนข้างสูง - ยอมจ่ายเพื่อคุณภาพ


⚠️ งบจำกัดมาก - ราคาสูง อาจต้องหาทางเลือกอื่น

⚠️ อยากได้หน้าเปลี่ยนเยอะ - Juvederm เน้นความธรรมชาติ

⚠️ มือใหม่ไม่แน่ใจ - ควรปรึกษาหมอก่อน อย่าตัดสินใจเร็ว

⚠️ อยากได้ structure แข็งมาก - อาจเหมาะกับฟิลเลอร์แบบอื่นมากกว่า


สนใจฟิลเลอร์คุณภาพ มาตรฐาน อย. ของไทย ติดต่อตัวแทนจำหน่าย LINE @aestheticfriends


บทสรุป Juvederm นวัตกรรมที่เกิดจากการฟังลูกค้า

เรื่องราวของ Juvederm ที่ใส่ยาชาลงไปในฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่ไอเดียที่เกิดขึ้นแบบบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการฟังเสียงลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง


จากที่เริ่มต้นเพื่อแก้ปัญหาคนอเมริกันกลัวเจ็บ กลายเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ดีขึ้นสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาติไหน


Juvederm ไม่ได้เป็นแค่ฟิลเลอร์อีกตัวหนึ่ง แต่เป็นผลงานของการวิจัยพัฒนากว่า 20 ปี จากบริษัทระดับโลกที่มีประสบการณ์ด้านความงามมายาวนานกว่า 70 ปี


ถ้าคุณกำลังคิดเรื่องฟิลเลอร์ อย่าลืมว่าการเลือกแบรนด์ดีๆ เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความสำเร็จ อีกครึ่งหนึ่งคือการหาแพทย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจสิ่งที่เราต้องการ


แหล่งอ้างอิง




Recent Posts

See All
คู่มือโบท็อกซ์ อัปเดต 2025

ถ้าคุณกำลังเล็งโบท็อกซ์อยู่ แต่ก็ยังมีหลายคำถามในหัว เช่น“มันคืออะไร? เจ็บไหม? หน้าจะแข็งหรือเปล่า? ราคาเท่าไหร่?” คุณไม่ได้เดียวดายเลยค่ะ ทุกคนผ่านช่วงสงสัยแบบนี้เหมือนกัน บทความนี้จะชวนคุยแบบเพื่อนต

 
 
 

Comments


บทความทั้งหมด

ช่องทางการติดตาม

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

LINE: @aestheticfriends

bottom of page